แกงสับนกปลา เมนูแกงไทยโบราณชื่อแปลกแต่อร่อยปัง

แกงสับนกปลา เมนูแกงไทยโบราณชื่อแปลกแต่อร่อยปัง

หลายคนอาจสงสัยกับชื่อเมนูว่าทำไมเรียกแกงสับนก เมนูแกงกะทิทั้ง ๆ ที่ไม่มีส่วนผสมเป็นนกอยู่เลย เมื่อสมัยก่อนก็สับนกกินจริง ๆ แต่มาตอนหลังไม่ได้กินนกกันแล้วแต่ก็ยังติดปากเรียกการสับหยาบ ๆ ว่าเป็นการสับนกเหมือนเดิมนั่นเอง โดยเมนูแกงสับนกยอดนิยมที่อยากให้ลองทำกันคือ แกงปลาสับนก ขอนำเสนอวิธีทำแกงสับนกปลา ใส่เนื้อปลาสับและโขลกจนเหนียว หยิบชิ้นพอคำใส่หม้อแกงกะทิต้มจนสุก ส่วนเครื่องเคราในแกงกะทิก็มีทั้งผักและสมุนไพรมีคุณค่าทั้งนั้น เมนูนี้กินกับข้าวหรือขนมจีนก็อร่อย

แกงสับนกปลา เมนูแกงไทยโบราณชื่อแปลกแต่อร่อยปัง

ส่วนผสม แกงสับนกปลา

  • เนื้อปลา สับละเอียด
  • น้ำแข็ง
  • หัวกะทิ
  • เกลือ
  • น้ำพริกแกง
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลปี๊บ
  • มะเขือพวง
  • กระชาย
  • พริกสด
  • ใบมะกรูด
  • ใบโหระพา

ส่วนผสม น้ำพริกแกง

  • กระชาย
  • พริกไทยดำ
  • ผิวมะกรูด
  • หางกะทิ

วิธีทำแกงสับนกปลา
1. ทำพริกแกงโดยปั่นหัวกระชาย พริกไทยดำ และผิวมะกรูด และหางกะทิรอไว้
2. เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน หัวกะทิน้ำแรกตักขึ้นจากกระทะ เคี่ยวไฟอ่อนจนแตกมันแล้วค่อย ๆ เติมหัวกะทิที่เหลือเคี่ยวต่อ เมื่อแตกมันได้ที่ สังเกตริมกระทะจะมันเยิ้ม ค่อย ๆ ใส่พริกแกงลงไปแล้วเคี่ยวให้หอม ประมาณ 15-20 นาที พริกแกงถึงจะสุกและส่งกลิ่นหอม
3. นำปลาเล็กปลาน้อยพร้อมปลากุเลาตัวใหญ่กิโลกว่า ๆ มาแล่เนื้อ ปลิดหนังออกแล้วสับจนก้างราวท้องละเอียด จากนั้นนำลงไปโขลกในครกหิน ใส่น้ำแข็งสักหน่อย ใส่เกลือสักนิด การใส่น้ำแข็งลงในเนื้อปลาเพื่อให้เนื้อปลาคลายความกระด้างลง ถ้าเป็นเนื้อปลาล้วน ๆ จะกระด้าง กินแล้วสาก ๆ ไม่นุ่มจึงต้องใส่น้ำแข็งลงไป น้ำแข็งละลายเป็นน้ำเพิ่มความชื้นให้เนื้อปลานุ่มขึ้น ใส่เกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ โขลกเนื้อปลาจนเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อปลาจะเหนียวยกสากขึ้นได้ยาก ปั้นก้อนแล้วใส่ลงในเครื่องแกงกะทิ ชิมรสสัมผัสของเนื้อปลา ถ้าไม่เหนียวก็โขลกต่อ ถ้าจืดก็ปรับเพิ่มเกลือ ถ้ามีเครื่องปั่นจะช่วยให้ขั้นตอนการโขลกเนื้อปลารวดเร็วขึ้น
4. เมื่อปลาได้ที่ก็ปั้นใส่ลงในกระทะ ปรับชิมรสชาติแกง เติมน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บเท่านั้น ใส่มะเขือพวง กระชาย พริก ใบมะกรูด และโหระพา ตักเสิร์ฟ