เป็นแกงเผ็ดที่มีรสชาติมันกลมกล่อม จากน้ำกะทิผัดกับน้ำพริกเขียวหวาน จนได้กลิ่นหอม น้ำแกงมีสีเขียวอ่อนที่เป็นเอกลักษณ์ แกงได้กับทั้งกับเนื้อวัว เนื้อไก่หรือเนื้อหมู กินพร้อมกับข้าวเปล่าหรือขนมจีนก็เข้ากันได้ดี สามารถไปลิ้มลองแกงเขียวหวานไก่ สูตรดั้งเดิม รสชาติเข้มข้น
วัตถุดิบ
- เนื้อติดเอ็นติดมัน 500 กรัม
- หัวกะทิข้น ๆ สำหรับผัดพริกแกง 1 ถ้วย
- หัวกะทิข้น ๆ สำหรับเติมลงในแกง ½ ถ้วย
- หางกะทิ 5 ถ้วย
- มะเขือพวง 1 ถ้วย
- น้ำปลา 2½ ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าเหลืองและแดงกรีดเมล็ดออก หั่นแฉลบตามชอบ
- ใบโหระพาตามชอบ
ส่วนผสมพริกแกง
- หอมเล็กปอกเปลือกซอย 5 หัว
- กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 14 กลีบ
- ข่าซอย 5 แว่น
- ตะไคร้ซอย ¼ ถ้วย
- ผิวมะกรูดซอย 2 ช้อนชา
- พริกขี้หนูสวนสด 70 เม็ด
- ลูกผักชีคั่ว 2 ช้อนชา
- ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
- ลูกจันทน์คั่ว 1 ผล
- ดอกจันทน์คั่ว 4 ดอก
- กระวานคั่ว 7 เม็ด
- เปราะหอมแห้งคั่ว 4 ชิ้น
- เกลือทะเลเม็ด 5 เม็ด
- กะปิห่อใบตองย่างไฟจนหอม 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เคี่ยวเนื้อวัวกับหางกะทิรวมกันด้วยไฟกลาง รอให้เดือด จึงหรี่ไฟลงเคี่ยวเนื้อจนนุ่มประมาณ 1 ชั่วโมง
- ระหว่างเคี่ยวเนื้อให้โขลกพริกแกงเขียวหวาน โดยโขลกเครื่องเทศคั่วต่าง ๆ รวมกันขณะยังร้อนจนละเอียด ตักขึ้นแยกใส่ถ้วยไว้ ใส่เกลือเม็ดผิวมะกรูดลงในครกใบเดิม โขลกให้ละเอียด ตามด้วยข่า ตะไคร้โขลกให้ละเอียดอีกครั้ง แล้วใส่พริกขี้หนู กระเทียม กะปิ และหอมเล็กลงโขลกตามลำดับให้ละเอียด แล้วจึงใส่เครื่องเทศคั่วที่โขลกละเอียดแล้วลงโขลกรวมกันอีกครั้ง
- เมื่อเคี่ยวเนื้อจนนุ่มได้ที่แล้ว เริ่มทำแกงเขียวหวาน โดยผัดหัวกะทิให้แตกมัน ใส่พริกแกงลงผัดจนหอม ใส่เนื้อที่เคี่ยวไว้ลงไปผัด เติมหัวกะทิที่แบ่งไว้เติมในแกงและหางกะทิที่เหลือจากการเคี่ยวเนื้อเล็กน้อยต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสได้ที่แล้ใส่มะเขือพวง พริกชี้ฟ้าและใบโหระพา ปิดไฟตักใส่ถ้วย รับประทานกับข้าวสวยหรือขนมจีน
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 468.65 กิโลแคลอรี
โปรตีน 19.82 กรัม ไขมัน 35.74 กรัม